สำหรับเรื่องราวต่อไปที่เราจะนำมาฝากเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการฝึกภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนี่ล่ะจ้า ที่เราก็มักจะมีปัญหากัน ว่าแต่เรื่องนี้จะเป็นยังไงเรามาชมกันเลยดีกว่าครับ
ในส่วนของการเรียนภาษาอังกฤษนั้น สิ่งที่ยากที่สุดนั้นคงไม่พ้นการท่องจำ Tense นั่นเองครับผม ซึ่งหลายๆ คนได้ยินคำนี้มาก็คงจะยี้กันเป็นแถวแล้วล่ะใช่มั้ย -*-
วันนี้เราเลยขอเสนอ วิชามาร!! การท่องจำ 12 Tense แบบง่ายๆ ที่จะทำให้ปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษของคุณหมดไป!! จะมีอะไรบ้างเรามาชมกันเลยนะครับ
ตามหลักโครงสร้างสามารถแบ่งออกได้เป็นหลักๆ 2 อย่าง คือ Active กับ Passive
Active – ประธานเป็นผู้กระทำ
Passive – ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ หรือ ประธานเป็นสิ่งของหรือสิ่งไม่มีชีวิตที่ไม่สามารถกระทำได้เอง
ก่อนอื่น เรามาดูตารางของทั้ง 24 โครงสร้าง เลยดีกว่าครับ
Active
Passive
ขั้นตอนแรก
ในบรรดา Tense ทั้งหมดนั้น
เราสามารถแบ่งตามช่วงเวลาในการเกิดได้ 3 ช่วง คือ
Past – เกิดในอดีต
Present – เกิดในปัจจุบัน
Future – เกิดในอนาคต
ตามรูปข้างล่างเลยครับ
จากนั้น แบ่งตามประเภทได้อีก 4 แบบ
Sim Con Per Percon!
Sim คือ Simple
Con คือ Continuous
Per คือ Perfect
Percon คือ Perfect Continuous ซึ่งท่องได้ง่ายๆ ด้วย Sim Con Per Percon! นั่นเองครับ
มาต่อกันด้วยขั้นตอนที่ 2 กันเลยนะครับ…
ทีนี้เราจะมาเริ่มกันที่แถวกลาง คือ ส่วนของ Present ปัจจุบัน กันก่อนเลยครับ
โดยรูปแบบจะมีดังนี้
Present Simple – Subject + V.1
Present Continuous – Subject + V to be (is/am/are) + V.ing
Present Perfect – Subject + has/have + V.3
Present Prefect Continuous – Subject + has/have + been + V.ing
มาต่อด้วยขั้นตอนต่อไปกันเลย…
ทำการผันให้ทุก Tense ไปสู่รูปอดีต คือ Past Tense ให้หมดครับ
ทีนี้เรามาดูกันที่ กริยาที่ติดกับประธานที่สุด
ตามรูปเลยครับ
เราจะทำการผัน กริยาในสี่เหลี่ยมสีแดง ซึ่งมันคือ กริยาที่อยู่ติดกับประธานที่สุด ให้ไปอยู่ในรูปของ กริยาช่อง 2
ลองดูตามรูป กริยาทุกตัวจะอยู่ในรูปช่อง 2
ช่อง 2 ของ กริยาช่อง 1 คือ กริยาช่อง 2 ของตัวมันเอง
ช่อง 2 ของ is/am/are คือ was/were
ช่อง 2 ของ has/have คือ had
โดยตอนนี้ เราจะได้ Past Tense และ Present Tense ทั้งหมดแล้วนะครับ อิอิ
ขั้นตอนต่อไป!!
ทีนี้เราจะไปยัง Future Tense กันนะคับ
เราจะกลับไปตั้งหลัก Present Tense ก่อน
ขีดเส้นแบ่งระหว่าง ประธาน กับ ส่วนข้างหลังออก ดังรูปครับ
จากนั้นง่ายมากมายคับ
เติม will ตรงไปตรงเส้นแดงซะ เราก็จะได้ Future Tense ทั้งหมดแล้ว !!! อะไรจะง่ายขนาดน้านนนนคร๊าบบบคุ๊ณผู้ช๊มมมมม ><
สุดท้ายนี้มาดูเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ นะครับ
บางคนอาจจะสงสัยทำไมหลัง will ต้องใช้ be / have
เพราะ will ถือเป็น auxilary verb ครับ ซึ่งหลัง verb ประเภทนี้ต้องตามด้วย คำที่เป็น Base ของมัน
is/am/are มี base คือ be
has/have มี base คือ have
ซึ่งในตอนนี้เราก็จะได้ Tense ทั้ง 12 กันอย่างง่ายๆ แล้วนะครับอิอิ ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะครับ :) เรียกว่าใครๆ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ เลยล่ะ ไว้คราวหน้าเราจะนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการฝึกภาษามาเล่าสู่เพื่อนๆ ใหม่นะครับ
Source: Pantip.com