คนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่า No แปลว่า “ไม่” Not ก็แปลว่า “ไม่” มันก็คงจะใช้เหมือนๆกันนั่นแหละ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ คำว่า No แปลว่า ไม่ แค่ตอนตอบคำถามที่เป็น Yes/No question เท่านั้น
Do you have any money? No, I don’t.
Will you go out tonight? No, I won’t.
แต่ถ้าไปเจอ no ที่อื่นมันจะไม่ได้แปลว่า ไม่ แล้วค่ะ แต่แปลว่า “ไม่มี” ต่างหาก เวลาใช้ก็แค่เอาไปวางไว้หน้าคำนาม แล้วนามนั้นก็จะอันตรธานหายไป ไม่มีโดยทันที เช่น
I have no idea.
I had to walk home last night because there was no bus.
Hurry up! We have no time left.
No student passes math exam.
มาดูทางฝั่ง not กันบ้าง not เนี่ยแหละค่ะที่แปลว่า ไม่ ตัวจริงเสียงจริง ใช้ในความหมายปฏิเสธโดยใช้คู่กับคำกริยา หรือ คำคุณศัพท์ หรือ คำนาม แต่!! กฎคือ มันจะเข้ามาเสียบหน้าคำพวกนี้ลอยๆไม่ได้ มันต้องมีตัวช่วยเข้ามาวางไว้หน้า not นั่นก็คือ กริยาช่วย (Auxiliary verb) นั่นเองค่ะ มีทั้ง Verb to be, Verb to do, Verb to have, และ modal verb ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มี not ตามหลังได้เลยในความหมายปฏิเสธ เช่น
Susie does not speak French.
I do not need your help.
You are not my boss.
She is not tall.
You should not wear shoes in Japanese home.
แต่เป็นธรรมดาของภาษาอังกฤษ ตั้งกฎนู่นกฎนี่กฎนั่นมาตั้งมากมาย แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ดี ข้อยกเว้นของการใช้ not ก็คือ มันสามารถไปวางไว้หน้านามได้เหมือนกัน แปลกไหมล่ะ แต่มีข้อแม้ว่านามนั้นต้องมีคำบอกจำนวนอยู่ข้างหน้า เช่น
Not many people are allowed to enter the stadium.
Not much sugar was used in this dish.
นอกจากนี้ในบางกรณี ก็สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ no หรือ not เช่น
There was not any food left in the kitchen.
There was no food left in the kitchen.
สองประโยคนี้ความหมายเหมือนกันค่ะ คือแปลว่า ไม่มีอาหารเหลืออยู่ในห้องครัว
I have no money.
I don’t have any money.
สองประโยคนี้ก็มีความหมายเดียวกัน ซึ่ง don’t ก็คือ do not ที่เป็นรูปย่อ แต่ข้อควรระวังคือ อย่าเอาสองคำนี้มาใช้รวมกันเด็ดขาด คือ I don’t have no money. อย่างนี้ผิดค่ะ เพราะ ถ้าจะใช้ no ก็ไม่ต้องมี don’t ข้างหน้าแล้ว เพราะ no มีความหมายเป็นปฏิเสธอยู่แล้ว กริยาจึงต้องเป็นรูปประโยคบอกเล่า แต่ถ้าจะใช้ don’t ก็อย่าเอา no มาทับซ้อนกัน ใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้นค่ะ ประมาณว่า เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
เข้าใจความแตกต่างของสองคำนี้แล้วใช่มั้ยครับเพื่อนๆ ติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษทุกวันได้ที่นี่นะครับ
ที่มา: pasaangkit
2 Comments
Comments are closed.
[…] วิธีใช้ No กับ Not ในภาษาอังกฤษ ความเหมื… […]
[…] วิธีใช้ No กับ Not ในภาษาอังกฤษ ความเหมื… […]