สวัสดีครับ วันนี้เราก็นำสาระประโยชน์มาฝากเพื่อนๆอีกเช่นเคย มีใครเคยสงสัยมั้ยครับว่า past tense ทำไมใช้ยากจัง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ วันนี้เราจะมีสรุปแบบรวบรัดมาฝากครับ
ก่อนอื่นเลย หวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะสามารถผันกริยา 3 ช่องได้นะครับ เนื่องจากศัพท์บางตัวต้องเปลี่ยนรูปสะกดไปเลย เช่น run เป็น ran แต่ศัพท์ส่วนใหญ่ก็มักแค่ เติม -ed ต่อจาก verb แหละครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
ก่อนอื่นมาดูกันเลยครับว่า past tense มีกี่แบบ อะไรบ้าง
1. Past Simple Subject + Verb 2 หรือ Verb เติม ed
2. Past Continuous Subject + was, were + Verb (ing)
3. Past Perfect Subject + had + Verb 3
4. Past Perfect Continuous Subject + had + been + Verb (ing)
1. Past Simple Tense (โครงสร้าง Subject + Verb 2 หรือ Verb เติม ed)
ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีต มักมีคำหรือกลุ่มคำของอดีตมากำกับ
เช่น ago (แต่ก่อน) once (ครั้งหนึ่งในอดีต) yesterday (เมื่อวานนี้)
when he was young (เมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก)
after they had gone (หลังจากที่พวกเขาไปแล้ว)
ตัวอย่างประโยค
I went to church yesterday. (ฉันไปโบสถ์เมื่อวานนี้)
She bought that car last year. (หล่อนซื้อรถคันนั้นเมื่อปีที่แล้ว)
2. Past Continuous Tense (โครงสร้าง Subject + was, were + Verb (ing) มีวิธีการใช้ดังนี้
1) ใช้ร่วมกับ Past Simple Tense เมื่อมีเหตุการณ์ หรือการกระทำ 2 อย่างเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต
ใช้ Past Simple Tense กับเหตุการณ์สั้นๆ ที่เกิดขึ้นทีหลัง
ใช้ Past Continuous Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและกำลังดำเนินอยู่ในขณะนั้น
เช่น While I was watching the football match, I had a headache.(ขณะที่ฉันกำลังดูการแข่งขันฟุตบอลอยู่นั้น ฉันก็ปวดศีรษะ) ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำ
2) อย่างที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีตในเวลาเดียวกัน
เช่น We were playing while they were studying. (พวกเรากำลังเล่นกัน ขณะที่พวกเขากำลังเรียน )
3. Past Perfect Tense (โครงสร้าง Subject + had + Verb 3)มีวิธีการใช้ดังนี้
1) ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำ 2 อย่างที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนให้ใช้ Past Perfect Tense
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังให้ใช้ Past Simple Tense
เช่น I went to work after I had eaten breakfast.(ฉันไปทำงานหลังจากที่ได้ทานอาหารเช้า)
We had learnt Japanese before we went to Japan. (พวกเราได้เรียนภาษาญี่ปุ่นก่อนที่พวกเราจะไปประเทศญี่ปุ่น)
2) ใช้กับการแสดงความปรารถนาในสิ่งที่ไม่เป็นจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้วในอดีต
เช่น We wish we had passed the examination. (พวกเราอยากให้พวกเราได้สอบผ่าน (ซึ่งในความเป็นจริงพวกเราสอบไม่ผ่าน)
4. Past Perfect Continuous Tense (โครงสร้าง Subject + had + been + Verb (ing)
มีวิธีการใช้ที่ไม่แตกต่างจาก Past Perfect Tense แต่มีจุดต่างกันตรงที่ Past Perfect Continuous Tense จะเน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ หรือการกระทำได้ดีกว่า Past Perfect Tense
เช่น I had been sleeping for two hours when he came in. (ฉันได้นอนหลับต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว เมื่อตอนที่เขาเข้ามา)
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ยังสับสนอยู่ อันดับแรกเลยคือต้องจำโครงสร้างให้ได้คร่าวๆก่อนนะครับ แล้วก็สร้างภาพไว้ในหัว ลำดับเหตุการณ์ดีๆก็จะเข้าใจง่ายขึ้นครับ ขอบคุณข้อมูลดีๆจากบล้อก englishbykanjan นะครับ
ที่มา: englishbykanjan
7 Comments
Comments are closed.
[…] ที่มา : https://www.scholarship.in.th/ […]
[…] วิธีใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่อง ฉบับเข้… […]
[…] วิธีใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่อง ฉบับเข้… […]
[…] วิธีใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่อง ฉบับเข้… […]
[…] วิธีใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่อง ฉบับเข้… […]
[…] วิธีใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่อง ฉบับเข้… […]
[…] วิธีใช้ Past Tense ในการเล่าเรื่อง ฉบับเข้… […]