การที่หลายๆ คยสอบก็ได้คะแนนไม่ดี เรียนหนังสือก็ไม่ยักกะจำสักกะที หรือทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ ได้ดีน้อยกว่าเพื่อนๆ คนอื่นๆ นั้น ที่จริงแล้วมันมีที่มาที่ไปครับผม!!
ซึ่งที่จริงแล้วไม่เกี่ยวอะไรกับความโง่ความฉลาดอะไรเทือกนั้นหรอกนะครับ สาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีสมาธิในการเรียนมากกว่า!! ถ้าไม่เชื่อก็ลองคิดถึงเรื่องอื่นอยู่เวลาอ่านหนังสือสิครับ ออกทะเลแน่นอนเลยล่ะ…
แต่ถ้าหากใครอยากเรียนหนังสือเก่งขึ้น หรือคะแนนดีขึ้นกันล่ะก็ วันนี้ ScholarShip.in.th ก็มีเคล็ดลับเจ๋งๆ มาฝากเพื่อนๆ กันจ้า ลองมาชมกันเลยนะจ๊ะ
สำหรับคนที่อยากเรียนหนังสือเก่งขึ้น คะแนนดีขึ้น หรือทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นนั้น เรื่อง “สมาธิ” นี้จะทอดทิ้งไม่ได้เลยล่ะครับ!! ก็เพราะว่า “สมาธิ” นี้จะเป็นตัวที่เข้าไปช่วย ทำให้สมองปลอดโปร่ง ความทรงจำหรือก็จะดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
ถ้าสมมตินะครับว่า เวลาที่จิตใจสับสน คิดโน่น คิดนี่ ถ้าเราจะเรียนหนังสือหรือ หรืออ่านตำรา อะไรอยู่นั้น ก็ยากที่จะเข้าใจได้ บางทีอ่านไปตั้งนานก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ก็มีสาเหตุเดียวนั่นล่ะครับ คือการที่เรามีสมาธิไม่มั่นคงนั่นเอง
เราเคยสังเกตเห็นกันมั้ยล่ะครับว่า นักเรียนที่เรียนหนังสือเก่งนั้น พวกนี้มักจะมีสมาธิดีเป็นพิเศษ เวลาเรียนหนังสือหรือท่องตำรา ก็จะทำอย่างตั้งอกตั้งใจ มีสมาธิต่อการเรียน หรือต่อตำราที่ กำลังท่องจริงๆ จึงสามารถทำให้จดจำเนื้อหาในตำราได้อย่างแม่นยำกว่าคนอื่น!!
ส่วนเคล็ดลับการเพิ่มพลังสมาธิหรอ!? ง่ายๆ เลยจ้า เมื่อตื่นนอนมา ให้รีบชาร์จพลังแก่สมองก่อนเป็นอันดับแรกเลย โดยการนั่ง สมาธิ ตั้งสติอยู่ที่ลมหาย ใจเข้า-ออก อาจจะภาวนา พุท-โะ ไปด้วยก็ไม่ผิดกติกานะครับ ทำอย่างนี้เป็นประจำนะครับสัก 5 – 10 นาที ปล้วจึงค่อยทำกิจกรรมต่อไปนะครับ
และก่อนเวลาเข้าเรียน ก็ควรตั้งสติกำหนด ลมหายใจตามแบบเดิมอีกสักระยะหนึ่ง จะช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องทำสมาธินั่งขวาทับซ้ายหรอกนะครับ ไม่ต้องหลับตาก็ได้ แค่โฟกัสที่ลมหายใจเข้าออกก็พอ เดี๋ยวจะโดนหาว่าเพี้ยนกันเอาได้นะครับ อิอิ
และถ้าจบในรายวิชาหนึ่งๆ ก็สามารถทำได้ครับผม จะเป็นการ Refresh สมองทำให้สมองสดชื่น พร้อมสำหรับการเรียนต่อในวิชาใหม่ไงล่ะครับ
การทำอย่างนี้ จะช่วยทำให้การคิดและการตัดสินใจดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่ว่าจะใช้ได้เฉพาะกับการเรียนหนังสือเท่านั้น แม้แต่การทำงานที่ต้องใช้สมอง ก็สามารถเอาวิธีนี้ไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกันนะครับ
และสุดท้าย…ก่อนนอนก็ทำแบบนี้สัก 5 – 10 นาทีนะครับ เหมือนตอนที่เราตื่นนอนนั่นเอง ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ นะครับ รับรองเลยล่ะว่าไม่ใช่แค่คะแนนเท่านั้นที่จะดีขึ้น การทำงาน หรือการใช้ชีวิตก็จะดีขึ้นตามไปด้วยเลยล่ะจ้า
ที่มา: Campus.Sanook