Jack Ma มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ขายของออนไลน์ Alibaba อันโด่งดัง ได้แนะนำเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตให้แก่ทุกๆคน
เป็นบทความที่น่าสนใจมากเพราะว่าอย่างที่รู้ๆกันว่า แจ๊ค หม่า ไม่ได้ร่ำรวยมาก่อน ซ้ำยังมีฐานะยากจนด้วยซ้ำ แต่อะไรที่พาเขามาไกลขนาดนี้ได้ ถ้าไม่ใช่ระบบความคิดของตัวเขาเอง จริงมั้ยครับ
1. Before you are 20 years old: Focus on your studies and don’t be afraid of falling down. “Be a good student. Make enough mistakes… You fall down many times, stand up. Don’t worry. Enjoy the show.”
ก่อนจะอายุ 20… จงตั้งใจเรียนและอย่ากลัวที่จะล้ม จงทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี พลาดให้พอ คุณล้มได้หลายครั้ง แต่ต้องลุกขึ้นมา อย่าไปคิดมาก สนุกกับละครชีวิตนี้ไปก่อน
2. Between 20-30: Go to a small company. Normally, in a big company, it is good to learn processing; you are part of a big machine. But when you go to a small company, you learn the passion, you learn the dreams. You learn to do a lot of things at one time. So before 30 years old, it’s not which company you go to, it’s which boss you follow. A good boss teaches you differently.
ช่วงที่คุณอายุ 20-30… จงไปหางานทำในบริษัทเล็กๆ ส่วนใหญ่แล้ว การทำงานในบริษัทใหญ่ๆ คุณจะได้เรียนรู้ระบบกระบวนการ และกลายเป็นฟันเฟืองของเครื่องจักรใหญ่ๆ แต่เวลาที่คุณไปทำงานในบริษัทเล็กๆ คุณจะเรียนรู้ความหลงไหล และเรียนรู้ความฝัน คุณจะมีโอกาสเรียนรู้หลายๆสิ่งในเวลาเดียวกัน ฉะนั้น ก่อนอายุ 30 มันไม่สำคัญว่า คุณจะไปทำงานกับบริษัทไหน แต่หัวหน้าคนที่คุณเดินตามต่างหากที่สำคัญ หัวหน้าที่ดี จะสอนคุณได้อย่างไม่เหมือนใคร
3. Before 30 years: You have to choose a good boss. “It is not which company you go, it’s which boss you follow. A good boss teaches you differently”
ก่อนจะอายุ 30 ปี… คุณต้องเลือกหัวหน้าที่ดี มันไม่สำคัญว่า คุณจะไปทำงานกับบริษัทไหน แต่หัวหน้าคนที่คุณเดินตามต่างหากที่สำคัญ หัวหน้าที่ดี จะสอนคุณได้อย่างไม่เหมือนใคร
4. Between 30-40: ํYou need to think clearly whether you want to work for yourself, if you really want to be an entrepreneur.
เมื่อคุณเข้าช่วงอายุ 30 – 40 ปี… คุณต้องค้นหาคำตอบให้แน่ชัดว่า คุณต้องการทำงานให้ตัวเองมั้ย ในกรณีที่คุณอยากเป็นเจ้าของกิจการจริงๆ
5. Between 40-50: You must now be exactly aware of what you are good at. Avoid experimenting and trying new things at this time of life. “You have to do all things you are good at. Don’t jump into a new area. It may be too late. You may be successful, but the rate of dying is too big.”
เมื่อคุณเข้าช่วงอายุ 40 – 50 ปี… คุณจะต้องรู้อย่างแน่ชัดแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ดี หลีกเลี่ยงการลองผิดลองถูก หรือลองอะไรใหม่ๆในช่วงเวลาชีวิตนี้ คุณต้องทำในสิ่งที่คุณล้วนทำมันได้ดี อย่าพยายามเบนเข็มเส้นทางไปสู่อะไรใหม่ๆ มันสายไปแล้ว คุณอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้ แต่โอกาสที่คุณจะล้มเหลวนั้นสูงมาก
6. Between 50-60: It’s time for you to teach the future young entrepreneurs and help them excel in the field. “Work for the young people because young people can do better than you. Rely on them; invest in them making sure they turn good”
เมื่อคุณเข้าช่วงอายุ 50 – 60 ปี… นี่คือเวลาที่คุณจะต้องสอนคนรุ่นหลังและช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในสายงาน จงทำงานให้กับคนรุ่นหลัง เพราะคนเหล่านี้สามารถสร้างผลงานได้ดีกว่าคุณ พึ่งพาพวกเขา ลงทุนเสริมสร้างพวกเขา แน่ใจให้ได้ว่าพวกเขากำลังพัฒนาไปในทางที่ดี
7. Over 60 years old: It’s the time to relax and stay away from worries related to career. “Spend time for yourself. Go to the beach and relax” It’s too late for you to change.
เมื่อคุณอายุเกิน 60 ไปแล้ว… มันคือเวลาที่จะผ่อนคลายและอยู่อย่างไร้กังวลเกี่ยวกับเรื่องการงาน ใช้เวลาที่มีอยู่กับตัวเอง ไปทะเล และผ่อนคลายซะ มันสายไปแล้ว หากคุณจะคิดเปลี่ยนอะไร
หวังว่าทุกๆคนคงจะได้ประโยชน์ดีๆจากข้อแนะนำของคุณแจ๊ค หม่า ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่างไรก็ดี ชีวิตเราเราลิขิตเองครับ แต่ก็จะง่ายขึ้นถ้าเราพบกับทางเดินที่ใช่ เราก็แค่เดินตามมันไปนั่นเองครับ
source: stopmemo