ในปัจจุบันการเรียนต่อต่างประเทศสะดวกสบายและง่ายมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้ผู้มีความฝันสามารถออกเดินทางเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม มีหลายสิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนที่จะเริ่มเตรียมตัวออกเดินทาง เพราะหากคุณไม่มีแผนรับมือ หรือปล่อยให้โชคชะตานำทางเพียงอย่างเดียว เรื่องยุ่งยากใจโดยไม่จำเป็นอาจเกิดขึ้นบ่อยซะจนประสบการณ์ที่ดีกลายเป็นหนึ่งในความทรงจำแย่ๆ ก็ได้
เอาล่ะ! มาเริ่มกันเลย
1. ควรเตรียมงบเท่าไหร่สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ?
ค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วนจะแตกต่างกันไปตามแต่ปลายทางที่คุณเลือก สิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อเตรียมงบคือ หลักสูตรในสถาบันที่คุณสนใจสมัครเรียน ค่าครองชีพในประเทศปลายทาง สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก ค่าทำวีซ่าและค่าธรรมเนียมในกรเดินทาง และค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่นๆ ที่ควรมีสำรองไว้
Tips: การลงทะเบียนกับสถาบันโดยตรงจะถูกกว่าผ่านเอเจนซี และมหาวิทยาลัยที่อยู่นอกเขตตัวเมืองมักจะช่วยเซฟค่าครองชีพได้มากกว่า ตัวช่วยที่ง่ายที่สุดในการหาข้อมูลคือสอบถามจากคนในท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ค่ะ :)
2. จะเลือกไปเรียนต่อที่ไหนดี?
การเลือกสถานที่เรียนต่อเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญอันดับแรกๆ ที่ควรพิจารณา หากว่าคุณยังไม่มีไอเดียหรือตัดสินใจยังไม่ได้ เรามีตัวช่วยมาแนะนำ
– พิจารณาว่าคุณอยากเรียนอะไร? หากอยากเรียนด้านภาษาให้เลือกไปประเทศที่ใช้ภาษานั้นๆ โดยตรง แต่หากไม่ ให้เลือกประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักจะมีตัวเลือกมากกว่า
– เลือกสถาบันตามงบ บางครั้งมหาวิทยาลัยดังๆ อาจแพงโดยไม่จำเป็น สถาบันรอบนอกที่มีคุณภาพยังมีอีกมากมายและเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
– มีสาขาที่สนใจเฉพาะหรือไม่ หากมีจะง่ายต่อการค้นหามากๆ เลยค่ะ
– คุณอยากเรียนไปทำงานไป หรือมุ่งเน้นการเรียนโดยตรง?
– อยากได้รับประสบการณ์แบบไหน?
นี่เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ควรนำมาร่วมพิจารณา สุดท้ายแล้วไม่มีอะไรถูกผิดค่ะ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณเป็นสำคัญ ^^
3. ไปเรียนต่อช่วง COVID-19 จะได้ไหม?
การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกอย่างแท้จริง ทำให้หลายประเทศยังไม่เปิดรับนักศึกษาต่างชาติ แต่คุณสามารถเตรียมตัวได้ด้วยการติดตามข่าวสารมาตรการการรับมือของประเทศที่คุณสนใจ หรือไม่ก็ขอความช่วยเหลือจากสถาบันที่ต้องการสมัครเรียนให้ช่วยส่งข้อมูลที่ควรรู้มาให้ค่ะ :)
4. สิ่งที่ควรเตรียมไปก่อนออกเดินทาง
สำหรับมือใหม่ที่ผ่านทุกกระบวนการและพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว ในขั้นตอนการจัดกระเป๋า ไม่ว่าอะไรก็ดูเหมือนจะสำคัญไปซะทุกอย่างจริงไหมคะ? ดังนั้นเราจึงมีลิสต์ของที่ควรมีมาแนะนำเพื่อให้คุณเตรียมตัวได้ง่ายขึ้นค่ะ
– เสื้อผ้าสำหรับ 7 – 10 วัน ควรมีทั้งแบบกันหนาวไปจนถึงแบบที่ใส่สบาย ปรับเปลี่ยนตามภูมิอากาศของประเทศปลายทางที่คุณเลือกเดินทาง (ไม่ต้องห่วงค่ะ อยู่ๆ ไปเดี๋ยวเสื้อผ้าใหม่จะงอกขึ้นเอง)
– รองเท้าที่สวมใส่สบายสัก 2 – 3 คู่
– กระเป๋าเป้ใบใหญ่และกระเป๋าใบเล็กสักใบสำหรับกรณีออกไปข้างนอก
– สายชาร์จและตัวแปลงไฟสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
– ยาตามใบสั่งแพทย์สำหรับผู้ีที่มีโรคประจำตัว (ต่างประเทศหาซื้อยาแบบเสรียากนะคะ)
– อุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำแบบพกพา
– เอกสารสำคัญในการเดินทาง (หนังสือเดินทาง วีซ่า หลักฐานเที่ยวบินทั้งขาปและขากลับ หลักฐานการฉีดวัคซีน COVID-19 และอื่นๆ )
– เงินสดสำรอง
– อาหารแห้ง เครื่องปรุงรส หรือรสชาติที่คุณจะต้องคิดถึงไปอีกนาน (เผื่อกรณีเดินทางไปยังที่พักครั้งแรกแล้วยังไม่รู้ที่ทาง จะได้มีอาหารสำรองค่ะ)
นอกจากนี้ก็เป็นข้าวของตามเห็นสมควร ซึ่งควรมีเวลาเตรียมตัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อให้ไม่พลาดค่ะ
5. ควรเลือกไปเรียนต่อช่วงไหนดี?
จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับความพร้อมค่ะ โดยส่วนมากในปัจจุบันผู้คนนิยมเรียนต่อในต่างประเทศช่วงกำลังจะขึ้นปริญญาตรี หรือไม่ก็ไปต่อปริญญาโท ส่วนระดับมัธยมศึกษามักเป็นการแลกเปลี่ยนระยะสั้นมากกว่า สิ่งสำคัญคือให้พิจารณาจากหลักสูตรที่คุณสนใจ และความพร้อมในขณะนั้น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากกว่า
6. เรียนต่อต่างประเทศหลักสูตรจะยากไหมนะ?
ความยากของการเรียนต่อในต่างแดนคือการปรับตัวค่ะ เนื่องจากเราต้องย้ายไปเรียนรู้สิ่งใหม่ในดินแดนใหม่ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อยแต่หลังจากที่ปรับตัวได้ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากคุณเลือกเรียนในหลักสูตรที่ชอบหรือสนใจจริงๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกสนุกกับการเรียนได้มากกว่าการโฟกัสความยากง่ายค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในบางหลักสูตรที่มีความเข้มงวดอย่างสายงานวิจัยหรือ STEM ก็อาจจะเป็นความยากที่มากกว่าหลักสูตรทั่วไป สิ่งที่คุณควรเตรียมความพร้อมคือการวางตารางชีวิตให้มีสมดุลเพื่อไม่ให้เสียสุขภาพ และมีความสุขกับการเรียนได้ค่ะ
7. เรียนต่อต่างประเทศต่างกับไปเรียนแลกเปลี่ยนอย่างไร?
การเรียนแลกเปลี่ยนเป็นการเรียนในระยะสั้น ดังนั้นคุณจึงอาจจะรู้สึกสนุกและไม่กดดันเท่ากับการไปเรียนต่อจริงๆ เนื่องจากการเรียนแลกเปลี่ยนมักเน้นที่ประสบการณ์นอกห้องเรียนหรือการเรียนรู้ด้านอื่นที่ไม่ใช่วิชาการมากกว่า แต่สำหรับการเรียนต่อโดยตรงคุณจำเป็นต้องใช้ชีวิตในต่างแดนจนกว่าจะจบหลักสูตรและต้องพยายามเพื่อรักษาผลการเรียน (โดยเฉพาะนักเรียนทุน) ดังนั้นความเข้มงวดจึงมีมากกว่าค่ะ
8. ไปเรียนต่ออะไรดี?
หนึ่งในข้อดีของการเรียนต่อต่างประเทศคือมีสาขาให้เลือกเรียนมากกว่าการเรียนภายในประเทศค่ะ และไม่ได้จำกัดเฉพาะในแวดวงวิชาการ แต่ยังรวมถึงสายอาชีพด้วย อย่างในประเทศออสเตรเลียก็มีหลักสูตาเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากเป็นเชฟ โดยมีการเรียนทั้งทฤษฎี ปฏิบัติ และการสอบเหมือนการเรียนมหาวิทยาลัยทั่วไปเลย ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกเรียนในหัวข้อที่สนใจได้กว้างกว่าค่ะ
อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวเพื่อสมัครเรียนสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือทักษะด้านภาษาซึ่งหลายสถาบันมักมีข้อกำหนดคะแนนทักษะภาษาอังกฤษตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียน ใครที่อยากเรียนต่อต่างประเทศควรเตรียมพร้อมในส่วนนี้ไว้นะคะ
นี่เป็นหนึ่งในไกด์ไลน์เล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อว่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้่ง่ายขึ้นก่อนที่จะเตรียมตัวออกเดินทาง และแม้ว่าจะยังไม่ครบพร้อมทุกด้านก็อย่าพึ่งถอดใจนะคะ ความฝันคือเป้าหมายที่ไม่มีคำว่าสายในการทำให้สำเร็จ สู้ๆ ค่ะทุกคน :>
ที่มา: gooverseas