Neha Ramu สาวน้อยอัจฉริยะระดับไอคิว 162 สูงกว่า สตีเฟ่น ฮอว์คิง อัจฉริยะของโลกเสียอีก!!

เรื่องราวดีๆ ที่จะมานำเสนอในวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวคนหนึ่งครับผม ซึ่งเรียกได้ว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดาเลยล่ะ เพราะเธอมีไอคิวสูงกว่า 162 เลย ซึ่งเหนือกว่าระดับอัจฉริยะทั่วไปมากๆ

ทาง ฺBBC ได้ทำการสัมภาษณ์เด็กหญิงเนฮา รามู วัย 13 ปี ที่มีไอคิวสูงมากระดับอัจฉริยะ และสูงกว่า สตีเฟน ฮอว์คิง เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยา ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ที่เป็นอัจฉริยะในยุคนี้อีกด้วย!!

เธอได้ย้ายจากเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย มายังอยู่อังกฤษกับครอบครัวตั้งแต่อายุได้ 7 ขวบ มาอยู่ที่ย่านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอนในประเทศอังกฤษครับ

เรื่องเกิดขึ้นที่ว่าครอบครัวของเธอคิดว่า เธอฉลาดในระดับไม่ธรรมดาเลยล่ะ เลยได้ส่งเธอไปทดสอบวัดระดับไอคิวกับแมนซา ซึ่งเป็นองค์กรเก่าแก่ที่วัดระดับไอคิวระดับโลก เธอสอบวัดระดับไอคิวของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และมีไอคิว 162 สูงที่สุดในประเทศอังกฤษของรุ่นดังกล่าว และสูงกว่า สตีเฟ่น ฮอว์คิง อัจฉริยะของโลกตอนนี้อีกด้วย!!

สำหรับระดับไอคิวที่เป็นอัจฉริยะนั้นจะอยู่ที่ 140 ครับผม แต่นี่อะไรเกินไปไปตั้ง 160 เรียกได้ว่าเป็นเด็กหญิงน้อยที่ไม่ธรรมดาสมชื่อเลยล่ะ

เธอได้ให้สัมภาษณ์กับทาง BBC ว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันฉลาด ฉันได้คะแนนท็อปแค่บางวิชาที่โรงเรียน แต่บางวิชาฉันก็ต้องพยายามมาก ฉันว่าฉันไม่ฉลาดนะ ฉันแค่มีไอคิวสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะฉลาด”

“ฉันชอบเรียนเคมี เพราะฉันว่ามันสนุกเวลาเห็นการเอาสารอะไรผสมกัน แล้วประกอบกันเป็นสิ่งใหม่ ฉันชอบเรียนคณิตศาสตร์ด้วย เพราะมันตรรกะ และมันลงมือคิดหาคำตอบได้” เธอกล่าว

อีกทั้งเธอยังได้กล่าวว่า “หลายๆ คน คิดว่า ฉันต้องเรียนหนักมากๆ แต่ฉันไม่ได้เรียนหนักเลย ฉันก็พักผ่อนไปด้วยนะ”

และแม่ของเธอก็ได้เล่าเสริมว่า กสาวของตนแบ่งเวลาทำอะไรหลากหลาย มีเวลาดูทีวี ว่ายน้ำ และใช้เวลากับเพื่อนๆ เธอมีเวลาให้ทุกอย่างเหมือนเด็กปกติทั่วไปไม่มีอะไรแปลก

อีกทั้งเนฮายังได้กล่าวว่า “สตีเฟน ฮอว์คิง หรือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ประสบความสำเร็จอย่างมากๆ จนเป็นเรื่องที่ฉันไม่คาดฝัน เป็นเรื่องไม่ถูกต้องนักถ้าจะเปรียบเทียบไอคิวของฉันกับพวกเขา เพราะถ้าฉันไม่ใช้ความพยายามของฉันกับไอคิวที่มี ไอคิวก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย” สุโค่ยไปเลยจ้าน้องสาว

นอกจากนี้เธอก็ได้กล่าวอีกว่า เธอสนใจระบบการทำงานของสมอง ในอนาคต มหาวิทยาลัยในฝันของเธอคือ ฮาร์วาร์ด แต่หากเธอได้เรียนที่เคมบริดจ์ หรือ อ๊อกซ์ฟอร์ด ก็ไม่เป็นไร ของให้ได้เรียนเกี่ยวกับระบบสมองตามความฝันของเธอ

และเธอก็ได้ตบท้ายว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันจะหยุดเรียนรู้ ถึงจะเรียนจบแล้วในอนาคต ฉันอยากจะมีความสงสัย ใคร่รู้อยู่เสมอ ฉันอยากให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ”

แหมเรียกได้ว่าเป็นคนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนเอามากๆ เลยนะครับ ขยันเรียนและคิดเป็นแบบนี้นะครับไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีอัจฉริยะดวงใหม่เกิดขึ้นมาบนโลกก็ได้นะ อิอิ

แล้วเรามาพบกับสาระดีๆ แบบนี้กันได้ทุกๆ วันกับ ScholarShip.in.th นะครับ

Source: PraChaChat