ถ้าคนเราเลือกเกิดได้ เราคงไม่เลือกเกิดในที่ที่เราต้องลำบากหรอกใช่ไหมล่ะครับ แต่เมื่อเราเกิดมาแล้วเราก็ต้องยอมรับสภาพที่เราเป็น มีอีกหลายชีวิตในโลกที่แย่กว่าเรามากมาย และโลกนี้ก็โหดร้ายสำหรับคนบางกลุ่มจริงๆครับ เรามาดูเรื่องราวของเด็กชายชาวไนจีเรียคนนี้กันดีกว่า ว่าเขารอดมาจากความโชคร้ายได้อย่างไร
เด็กชายชาวไนจีเรียรายหนึ่ง ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง เพราะความเชื่อประหลาด ๆ เขาเดินเปลือยกายเร่ร่อน นานกว่า 8 เดือน ก่อนได้รับความช่วยเหลือจากอาสาสมัครชาวเดนมาร์ก
“เด็กกว่าพันคนต้องถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง เพียงเพราะเด็กเหล่านั้นถูกกล่าวหาด้วยความเชื่อผิด ๆ ว่าเกิดมาพร้อมคำสาปบ้างหรือเป็นแม่มดพ่อมดบ้าง เราเห็นความเจ็บปวดทรมานในเด็กมามากมายกับเรื่องนี้ เด็กบางคนเสียชีวิต บางคนอาการปางตาย และบางคนมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ มีความหวาดกลัวกับสิ่งรอบตัว” นี่คือคำพูดจากอาสาสมัครชาวเดนมาร์ก ชื่อ Anja Ringgren Loven
ไม่นานมานี้ Anja ได้เขาช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่ง เป็นเด็กชายชาวไนจีเรีย มีอายุเพียง 2 ขวบ เขาถูกพ่อแม่ทอดทิ้งไว้ลำพังจนมีสภาพร่างกายซูบผอมและหิวโซ ซึ่งเด็กชายคนนี้ได้เดินเร่ร่อนไปตามถนนในเมือง ในสภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มใด ๆ ปกคลุมร่างกาย เป็นเวลานานกว่า 8 เดือน
หลังจากที่ Anja มาพบ เธอได้ตั้งชื่อให้เด็กชายใหม่ว่า Hope (แปลว่า ความหวัง) ซึ่ง Anja ได้พบกับ Hope เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา และ Hope ก็ได้เข้ารับการรักษาพยาบาล เพื่อดูแลฟื้นฟูร่างกายและจิตใจต่อไป เราต้องขอบคุณ Anja เป็นอย่างมากที่ได้เข้าช่วยเหลือเขาได้ทันเวลา
Hope ประสบภาวะขาดสารอาหารและป่วยโรคพยาธิ
เราต้องขอบคุณ Anja ที่เข้าช่วยเหลือ Hope ได้ทันเวลา เขาได้รับการรักษาทางการแพทย์ต่อไป
อ้วนขึ้นแล้ว หลังจากได้รับการดูแลอย่างดี
จนล่าสุด ในวันนี้เขาได้ไปโรงเรียนแล้ว….
มีอีกหลายคนในโลกนะครับที่ต้องมีปัญหาในชีวิตเพียงเพราะว่าความเชื่อผิดๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตเด็กคนหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กอีกหลายคนที่ต้องเกิดมารับกรรม เราถือว่าโชคดีกว่าเขามาก สิ่งที่เราควรทำให้แก่โลกใบนี้เท่าที่ทำได้คือ ไม่กล่าวหาและตัดสินชีวิตของคนอื่นนะครับ แล้วโลกของเราก็จะสงบสุขมากขึ้น
ที่มา: dailymail