คุณเพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ เส้นทางชีวิตในฐานะนักเรียนทุนของเธอนั้นไม่ธรรมดา!
ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มากความสามารถ ทำตามความฝันจนคว้าทุนเรียนต่อได้ตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายจนถึงปริญญาเอก ทั้งประเทศนอร์เวย์, สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร รวมถึงการเข้าร่วมโครงการระดับโลกอีกมากมาย
ก่อนที่จะไปดูเคล็ดลับการคว้าทุนจากเธอ วันนี้ทาง ScholarShip.in.th อยากพาทุกคนไปทำความรู้จักเธอคร่าวๆ กัน
คุณเพียงฝันคือหญิงชาวไทย เธอมีอาการแอสเปอร์เกอร์ (Asperger’s Disorder) เป็นความบกพร่องของพัฒนาการรูปแบบหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว อยู่ในกลุ่มเดียวกับโรคออทิสติก (Autistic Disorder) เธอจึงย้ายไปอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์หลังจากที่รู้ว่ามีอาการ
ถึงแม้เธอจะเป็นสาวออทิสติก แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้เธอย่อท้อ เพราะเธอมุ่งมั่นคว้าทุนการศึกษาตั้งแต่ยังเด็ก และนี่คือประวัติด้านการศึกษาของเธอ
– ได้ทุน UWC Thailand National Committee Scholarship เรียนต่อมัธยมปลายที่ UWC Red Cross Nordic ประเทศนอร์เวย์
– ได้ทุน Shelby Davis UWC scholars program ทุนเต็มจำนวนศึกษาต่อปริญญาตรีที่ Clark University ในสาขา Biology (Ecology and Conservation)
– ได้ทุนเต็มจำนวนจาก สวทช. เรียนต่อปริญญาโทด้าน Bioinformatics and Systems Biology ที่ King Mongkut’s University of Technology Thonburi
– ปริญญาโทใบที่สองด้าน Genomic Medicine อยู่ที่ University of Birmingham สหราชอาณาจักร
– ปัจจุบันเป็นนักเรียนทุนสหภาพยุโรป เรียนต่อปริญญาเอกด้าน Medicine ที่ Queen’s University Belfast สหราชอาณาจักร
นอกจากนี้เธอยังเคยเป็นตัวแทนประเทศไทยในโครงการ DTAC Telenor Youth Forum เข้าร่วมงานโนเบลสาขาสันติภาพ (Nobel Peace Prize) และงาน Telenor Youth Forum ในปี 2015 ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
เคยได้รับการสนับสนุนให้ไปฝึกงานที่สถาบันวิจัย National Museum of Natural History, Smithsonian Institution ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี สหรัฐอเมริกาอีกด้วย
บอกได้เลยว่ามากความสามารถขนาดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย กว่าจะถึงจุดๆ นี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับผู้ที่มีอาการแอสเปอร์เกอร์ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ยอมให้โรคนี้มากำหนดตัวเธอได้ว่าคำนิยามของเธอคืออะไร
และด้านล่างนี้คือ 8 เคล็ดลับจากคุณเพียงฝัน ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จและได้เป็นนักเรียนทุน
1. ต้องเตรียมตัวให้ดี ศึกษาทุนที่อยากได้ อ่านรายละเอียดและคุณสมบัติให้ครบถ้วน และจดทุกประสบการณ์ ถ่ายรูปทุกกิจกรรมที่ทำแล้วจะช่วยให้เป็นผู้สมัครที่โดดเด่นได้ยิ่งขึ้น
2. ทํากิจกรรมของโรงเรียนและพยายามเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขัน เช่น การเข้าค่าย ทำจิตอาสา กีฬาสี สภานักเรียน ชมรม หรือช่วยจัดงานต่างๆ ของโรงเรียน เป็นต้น
3. ภาษาสำคัญมาก! ต้องฟัง พูด อ่าน เขียน ในแบบที่สามารถใช้ชีวิตได้
4. คิดถึงประสบการณ์ที่น่าสนใจของตัวเองไว้ และวิเคราะห์ว่ามันจะมีประโยชน์กับ personal statement เพราะว่าการมีเรื่องเรื่องน่าสนใจนั้นสําคัญมาก และเวลาเขียนจงอย่ารอวินาทีสุดท้าย
5. ค้นหาข้อมูลโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ตัวเองสนใจไว้เยอะๆ อย่างน้อย 15 ที่ โดยเฉพาะข้อมูล financial aid ว่าแต่ละที่นั้นมีการสนับสนุนอย่างไร เหมาะสมกับเราหรือไม่
6. อาจารย์ที่ปรึกษาเเละครูฝรั่งในโรงเรียนคือบุคคลสำคัญเวลาขอ Letter of Recommendation เพราะเกรดไม่ได้หรูที่สุดไม่เป็นไรเเต่ถ้าอาจารย์สามารถซื้อใจกรรมการถึงเรื่องความประพฤติ และความเป็นผู้นําได้ ก็ช่วยได้เยอะมาก เพราะเกรดไม่ใช่ทุกอย่าง
และ Recommendation ที่ดีต้องจะต้องเป็น Official Letter head, เขียนด้วยลายมือ และปิดผนึก เพราะเราไม่ควรมีสิทธิได้อ่าน
7. ตัดสินใจยื่น Early Decision ได้เร็วยิ่งดี เพราะเงินมันอยู่ตรงนั้น!
8. แนะนำหนังสือฝึกภาษาอังกฤษฉบับโค้งสุดท้าย ดังนี้
– Official Guide to TOEFL ของ ETS
– TOEFL vocab ของ Barron’s
– Crack the New SAT ของ Princeton Review
เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีคุณภาพ ทั้งไม่ยอมแพ้ต่อความฝันและไม่ย่อท้อแม้จะมีอุปสรรคในชีวิต เชื่อว่าเรื่องราวของคุณเพียงฝันจะสร้างกำลังใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนที่อยากคว้าทุนทุกคน
อย่าลืมนำคำแนะนำดีๆ ทั้ง 8 ข้อไปปรับใช้ด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้ความฝันเป็นเพียงแค่ฝันไป ในเมื่อมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง :)
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ piangfuan.naksukpaiboon