เคยสังเกตมั้ยว่า ในกระเป๋ากางเกงของเด็กๆ มีอะไรซ่อนเอาไว้บ้าง?
เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Melissa Kaseman จะนำของออกจากกระเป๋ากางเกงของลูกชายเธอทุกครั้งหลังจากกลับมาจากโรงเรียน ซึ่งในแต่ละวัน ของในนั้นก็มีไม่ซ้ำกัน อย่างเช่นของเล่น ดอกไม้ หรือเศษชิ้นส่วนงานศิลปะที่ยับยู่ยี่
และในฐานะช่างภาพ Melissa รู้ดีว่ามันมีค่ามากเกินกว่าจะโยนทิ้งไป ดังนั้น เธอเลยเริ่มทำชุดภาพถ่ายที่ชื่อว่า “สมบัติในกระเป๋ากางเกงของเด็กอนุบาล (Preschool Pocket Treasures)” เพื่อบันทึกสิ่งที่เด็กๆ ได้พบเจอ ผ่านสิ่งของที่พวกเขานำกลับมาที่บ้าน ลองไปดูกันดีกว่ามีอะไรบ้าง
Melissa Kaseman เป็นช่างภาพจากซีแอตเติล เธอเรียนถ่ายรูปที่วิทยาลัยศิลปะแคลิฟอร์เนียและ Hogeschool voor de Kunsten Utrecht ในประเทศเนเธอร์แลนด์
รูปภาพของเธอ ส่วนมากมักจะเป็นภาพของสถาปัตยกรรมภายในและภายพรอตเทรตบุคคล
แต่เมื่อลูกชายของเธอ Calder เข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาล เธอถึงได้ยุติงานช่างภาพและหันไปรับลูกชายกลับบ้านในทุกเย็นแทน
เธอสังเกตเห็นว่าของที่อยู่ในกระเป๋า มักจะมีสีหรือพื้นผิวสัมผัสคล้ายๆ กัน
แต่ในระยะหลัง เธอพบว่าของเริ่มมีสีสันหลากหลายขึ้น ดูจากของเล่นชิ้นเล็กๆ ที่ลูกชายของเธอเก็บมา
“เมื่อฉันสังเกตวัตถุที่อยู่ในกระเป๋า มันทำให้ฉันรู้ถึงวิธีที่ลูกชายของฉันได้เรียนรู้โลกใบนี้ผ่านสิ่งของเหล่านั้น” เธอกล่าว
เธออธิบายลักษณะการถ่ายภาพของเธอว่าเป็น “minimalist” และ “ลงรายละเอียดของสี”
ของในกระเป๋าของลูกชายดูจะเข้ากันได้เหมาะเจาะ
Melissa ต้องการใช้รูปถ่ายของเธอเป็นเหมือนไดอารี่ตามเก็บช่วงชีวิตของเขา
“ความมหัศจรรย์ของวัยเด็กนั้นอาจจะหายไปวันไหนก็ได้ แต่ภาพของสิ่งที่ฉันเจอในกระเป๋าของ Calder จะเป็นตัวแทนของจินตนาการวัยเด็กของเขา และมันมีมนต์ขลังเหมือนการตามหาสมบัติ”
“คุณสามารถจดบันทึกช่วงเวลาในชีวิตของใครสักคนได้ โดยไม่ต้องใช้ตัวอักษร”
เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กวัยนี้ถึงได้ชอบเก็บเศษของตกแต่งและของชิ้นเล็กๆ
แต่ Melissa บอกว่าลูกชายของเธอภูมิใจกับภาพชุดนี้มาก
เขามีเหตุผลมากกว่าหนึ่งข้อที่อยากจะให้ภาพชุดนี้ได้รับรางวัล the CENTER in Santa Fe
เธอหวังว่าภาพชุดนี้จะสร้างความมหัศจรรย์เล็กๆ ให้กับโลกใบนี้
และลูกชายของเธอก็มุ่งมั่นที่จะหาสมบัติใหม่ๆ นอกเหนือจากที่โรงเรียนอนุบาล
“ฉันหวังว่าเขาจะรู้สึกมหัศจรรย์จากการค้นพบสิ่งต่างๆ ไปตลอดชีวิตของเขา”
เป็นคุณแม่ที่น่ารักมากเลยนะ ว่าไหมล่ะ…
ที่มา : www.thisisinsider.com