การเรียนต่อต่างประเทศเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน หนึ่งในประเทศที่น่าสนใจสำหรับนักศึกษาหลายๆ คนคือประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่เหมาะต่อการเรียนต่อของนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด
ด้วยเหตุผลหลายประการคือ ประเทศเยอรมนีมีคุณภาพของระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม อีกทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐยังไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียน และมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษเอื้อประโยชน์ต่อชาวต่างชาติ ใครที่กำลังเล็งที่จะเรียนต่อประเทศนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
วันนี้เราก็มีบทความดีๆ เกี่ยวกับข้อมูลการเรียนต่อในประเทศเยอรมนีสำหรับคนที่อยากเรียนต่อแบบสบายกระเป่า จะจริงหรือไม่และมีเงินสนับสนุนเราด้านใดบ้างนั้น ไปติดตามข้อมูลกันเลยค่ะ
อัตราการเข้ามาเรียนต่อของนักศึกษาต่างชาติิที่เยอรมนีมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากที่นี่มีการยกเว้นค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ และมีค่าลงทะเบียนเรียนเพียงแค่ €150-250 (ประมาณ 5,900-9,800 บาท)
อีกทั้งการที่เยอรมนีมีระบบการศึกษาที่เข้มแข็งและมีคุณภาพ โดยการันตีจากการที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 ของมหาวิทยาลัยคุณภาพจากการสำรวจผู้ปกครองของนักศึกษา
มหาวิทยาลัยในประเทศกว่า 40 แห่งก็ได้รับการรับรองให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ อ้างอิงจาก QS World University Rankings ซึ่งอันดับที่ดีที่สุดของมหาลัยในเยอรมนีตกเป้นของ Technische Universität München
อย่างไรก็ตามสัญญาณของการเรียนต่อรีในเยอรมนีของนักศึกษาต่างชาติก็ดูจะมีอีกไม่นานนัก เนื่องจากรัฐ Baden-Württemberg ที่อยู่ตอนใต้ของเยอรมนีพึ่งออกมาประกาศแผนเกี่ยวกับการรื้อระบบการจัดการค่าเล่าเรียนในประเทศสำหรับนักศึกษาที่อยู่นอกเขตสหภาพยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2017
นั่นก็หมายความว่านักเรียนต่างชาติจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนประเมาณ €1,500 (ประมาณ 59,000 บาท) ต่อภาคเรียน ถ้าต้องการเรียนในมหาวิทยาลัยในรัฐนั้น เช่น มหาวิทยาลัย Ruprecht-Karls-Universität Heidelberg
ถ้าคุณสามารถหามหาวิทยาลัยที่ไม่เก็บค่าเล่าเรียนได้ แต่คุณก็ยังต้องใช้เงินเกี่ยวกับค่าครองชีพอยู่ดี นอกจากนี้ถ้าคุณอยากได้วีซ่านักเรียนเพื่อเรียนในเยอรมนี คุณก็ต้องทำการพิสูจน์ก่อนว่าคุณมีรายได้ที่มั่นคงซึ่งรายได้เฉลี่ยต้องอยู่ที่ประมาณ €8,700 (ประมาณ 300,000 บาท) ต่อปี
สองเมืองในเยอรมนีคือเมือง เบอร์ลิน และ มิวนิก คือเมืองที่คนนิยมไปเรียนต่อมากที่สุดและได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 20 เมืองที่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อถูกที่สุดในโลก อ้างอิงจากการจัดอันดับของ QS Best Student Cities 2017
สำหรับใครที่อ่านข้อมูลแล้วก็ลองพิจารณาความคุ้มค่ากันให้ดีๆ นะคะ เพราะการที่เราจะไปเรียนต่อที่ใดที่หนึ่งนั้นเราต้องใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 1-2 ปีเลยทีเดียว
ดังนั้นเราต้องคิดให้รอบคอบในเรื่องค่าใช้จ่ายให้รัดกุมที่สุดค่ะ เพราะบางที่ยกเว้นค่าเล่าเรียนก็จริง แต่เราก็อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆ ซึ่งอาจจะทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา: www.topuniversities.com