หากจะพูดถึงอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ว่าใครต่างก็อยากจะไปเยือนสักครั้ง ทั้งยังเป็นปลายทางที่นักศึกษาจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจเดินทางไปเรียนต่อจำนวนมากทุกๆ ปี “สำหรัฐอเมริกา” คือหนึ่งในคำตอบที่หลายๆ คนนึกไว้ในใจ
มีสถาบันที่มีชื่อเสียงมากมายใน USA ที่ได้ชื่อว่าผลิตคนดังมากฝีมือในหลากหลายด้าน ทั้งยังมีทุนการศึกษาจำนวนมากในทุกๆ ปี หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจดินแดนแห่งนี้ นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้
ระบบการเรียนระดับอุดมศึกษาในสหรัฐฯ:
การศึกษาระดับอุดมศึกษาคือสหรัฐอเมริกามีชื่อเสียงไปทั่วโลก แม้ว่าค่าเล่าเรียนอาจมีราคาแพง แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพถือว่าสมเหตุสมผล นอกจากนี้ หลายๆ สถาบันยังให้ความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษาและการสนับสนุนอีกมากมาย รวมถึงการให้กู้ยืมทางการศึกษา นั่นทำให้หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปศึกษาที่นี่
การเรียนที่สหรัฐอเมริกาจะมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและสังคมที่หลากหลายรวมถึงวิธีการศึกษาที่ครบวงจรที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลก
ที่นี่มีโปรแกรมการสอนระดับสูงที่จะเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียน ซึ่งหลังเรียนจบ ผู้เรียนสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานอยู่ที่นี่ หรือเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด
มหาวิทยาลัยชื่อดัง:
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกาบางแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เยล และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ทว่า ก็มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในแต่ละรัฐที่เปิดสอนหลักสูตรในวงกว้างและหลักสูตรที่กำหนดในสาขาที่เลือก ยกตัวอย่างเช่น UCLA ในลอสแองเจลิสเป็นที่รู้จักในเรื่องหลักสูตรภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในขณะที่ Stephen Spielberg และ George Lucas เข้าศึกษาที่ California State University ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีมากเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนในโรงเรียน Ivy League เพื่อรับการศึกษาที่ดี
ภาคการศึกษา:
ในสหรัฐอเมริกา การศึกษาโดยปกติจะเริ่มภาคเรียนแรกในฤดูใบไม้ร่วง ราวๆ ปลายเดือนสิงหาคม แล้วแต่ข้อกำหนดของแต่ละสถาบัน บางปีจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบวันเวลาที่รับสมัครของแต่ละภาคเรียนโดยละเอียด
ค่าเล่าเรียนและระยะเวลาการศึกษา:
ค่าเล่าเรียนโดยส่วนมากจะแตกต่างกันไปในแต่ละมหาวิทยาลัย หากมีชื่อเสียงก็จะแพงกว่าปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือกด้วย ผู้ที่สนใจอยากเข้าเรียนในสถาบันต่างๆ จะต้องตรวจสอบค่าเล่าเรียนในแต่ละปีและวางแผนค่าใช้จ่ายระยะยาวเพื่อให้สามารถยื่นขอวีซ่าได้ง่ายขึ้น
ระยะเวลาของการศึกษาจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและระดับที่เอก ตัวอย่างช่น ใบอนุญาต CNA จะให้เวลาประมาณหนึ่งปีครึ่ง ในขณะที่การเรียนกฎหมายจะใช้เวลาราวๆ 3 – 4 ปีเป็นส่วนใหญ่
ข้อควรรู้สำหรับนักศึกษาต่างชาติ:
นักเรียนต่างชาติสามารถเลือกเรียนหลักสูตรที่หลากหลาย รวมทั้งมีเส้นทางอาชีพเพื่อยกระดับการเรียนรู้และให้โอกาสในการพัฒนาอาชีพของตัวเองในอนาคต
เมื่อเรียบจบยังสามารถหางานทำในสหรัฐฯ ได้ด้วย ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย
วีซ่านักเรียน:
ผู้ที่จะเข้ามาศึกษาจำเป็นต้องได้รับวีซ่านักเรียนซึ่งจำเป็นต้องติดต่อที่สถานทูตสหรัฐฯในประเทศของคุณนอกจากนี้ตามเว็บไซต์ของสถาบันต่างๆ ยังมีรายละเอียดเอกสารที่ต้องใช้หรือวีซ่าที่ต้องขอล่วงหน้าก่อนเข้าศึกษา
สังคมและค่าครองชีพ:
สังคมในสหรัฐฯ มีความหลากหลายอย่างมาก และมีความแตกต่างกันในระบบเศรษฐกิจ ค่าครองชีพจะแตกต่างกันไปตามย่านที่อยู่อาศัย ขึ้นอยู่กับรัฐที่คุณเลือกไปอยู่
อย่างไรก็ตาม ที่นี่มีเสรีภาพมากมายให้กับชีวิตวัยเรียนได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นดีสำหรับผู้ที่สนใจ
ประกันสุขภาพ :
ต้นทุนแผนประกันสุขภาพในสหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นก่อนเดินทางเข้าประเทศจึงควรตระเตรียมไปให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยากจะหาแผนสุขภาพซึ่งในสหรัฐฯ มีให้เลือกหลากหลายควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อว่าครอบคลุมในส่วนที่ต้องการหรือไม่ บางครั้งในบางสถาบันอาจมีการสนับสนุนในส่วนนี้สำหรับผู้ที่ขอทุนการศึกษา
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังวางแผนไปเรียนต่อ ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม การวางแผนล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ดี หากคุณมีเป้าหมายแล้วล่ะก็ พุ่งไปให้สุด แล้วหยุดเมื่อสำเร็จ !! :)
ที่มา: masterstudies