อาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วที่การเข้าสังคมนั้นต่างส่งผลดีต่อสมอง แต่การศึกษาใหม่ในปี 2020 นี้จะยิ่งช่วยย้ำเพิ่มความมั่นใจกว่าที่เคย เพราะงานวิจัยใหม่พบว่าการทำให้ปฏิทินโซเชียลของเราไม่ว่าง สามารถทำให้สุขภาพสมองดีขึ้นได้
ผลการวิจัยที่รายงานใน Journal of Gerontology: Psychological Sciences แสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุที่สังสรรค์กับเพื่อน เหล่าอาสาสมัคร หรือนักเรียนที่เข้าชั้นเรียนเป็นประจำจะมีสมองที่มีสุขภาพดี
เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการสั่งจ่ายยาด้วยการให้เข้าสังคมเป็นประจำ อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม ในทำนองเดียวกันการสั่งให้ออกกำลังกายสามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจได้
ผู้เข้าร่วมการวิจัยยังได้เปิดเผยอีกว่า นักวิจัยได้แบ่งการให้คะแนนโดยจะให้คะแนนสูงแก่ผู้ที่เข้าชั้นเรียน ไปโบสถ์ หรือทำกิจกรรมในชุมชน พบปะกับเด็กๆ ญาติๆ หรือเพื่อนบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมถึงอาสาสมัคร หรือกลุ่มคนทำงานที่ต้องอาศัย หรือแต่งงานอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น
จากการติดตามผลพบว่าผู้ที่รายงานการมีส่วนร่วมทางสังคมสูงขึ้นจะมีสสารสีเทาในสมองที่มากขึ้นในบริเวณส่วนต่างๆ ของสมองที่เกี่ยวข้องกับภาวะสมองเสื่อม ซึ่งหลังจากเซลล์เหล่านี้ตายแล้ว ภาวะสมองเสื่อมมักจะตามมา ดังนั้น การมีส่วนร่วมทางสังคมสามารถเพิ่มสสารสีเทานี้ในสมองได้
แม้ว่าการศึกษาจะดำเนินการก่อนที่ COVID-19 จะระบาด แต่การค้นพบนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับคนทุกวัยในช่วงการระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบางคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการเว้นระยะห่างทางสังคม
Dr. Cynthia Felix จาก University of Pittsburgh Graduate School of Public Health’s Department of Epidemiology กล่าวว่า “ข้อมูลของเราถูกรวบรวมก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยเชื่อว่าการค้นพบนั้นมีความสำคัญกับในช่วงเวลาไวรัสระบาดพอดี เพราะอาจทำให้หลายคนตระหนักได้ว่าการปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยปราศจากการเข้าสังคม อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะต่างๆ เช่น สมองเสื่อมได้ง่ายขึ้น”
รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมหาเวลาว่างให้ตัวเองในการออกไปเข้าสังคม สังสรรค์กับครอบครัว กับเพื่อน กับญาติ หรือคนรู้ใจบ้างนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงวัยที่จะช่วยให้ลดภาวะสมองเสื่อมได้จากการพูดคุยกัน :)