หลายคนคงเคยจินตนาการถึงการมีบ้านที่สามารถเปิดประตูไปเจอโลกแห่งความลับที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ เหมือนในภาพยนตร์หรือนิยายที่เคยอ่าน แต่คุณนึกออกไหมว่าจะเป็นอย่างไรถ้ามีเมืองที่ถูกฝังอยู่ใกล้ๆ ผนังบ้านของคุณนี่เอง?
ในปี 1963 ชาวตุรกีได้ทุบผนังที่ห้องใต้ดินของเขา ก่อนจะค้นพบเมืองใต้ดินอันเก่าแก่ชื่อ Derinkuyu ที่มีถึง 18 ชั้นด้วยกัน
ครั้งหนึ่งที่นี่มีผู้พักอาศัยถึง 22,000 คน เมือง Derinkuyu จึงเป็นหนึ่งในเมืองใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในภูมิภาค Cappadocia ของตุรกี
เมืองใต้ดินนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อไหร่กัน
สันนิษฐานว่าเมืองใต้ดิน Derinkuyu เริ่มจาก Phrygians ซึ่งเป็นชาวอินโด – ยูโรเปียน ในช่วงศตวรรษที่ 8 ถึง 7 ก่อนคริสตศักราช
หลังจากประชาชนหันไปนับถือศาสนาคริสต์ในยุคโรมัน พวกเขาก็เริ่มรวมสวดมนต์ในอาคารบ้านเรือนที่ชั้นใต้ดิน จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่าประชากรคริสเตียนใช้เมืองใต้ดินเพื่อการหลบหนีการถูกประหารโดยชาวโรมัน
แต่ในช่วงยุคไบเซนไทน์เมืองใต้ดินนี้ได้กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง เนื่องจากถูกใช้เป็นที่หลบภัยสำหรับชาวมุสลิมอาหรับ และในช่วงเวลานี้เองที่มีการเพิ่มอุโมงค์เชื่อมต่อกับเมืองใต้ดินอีกแห่ง
สภาพชีวิตความเป็นอยู่ในเมืองใต้ดิน Derinkuyu
คนที่อาศัยอยู่ใต้ดินมีพยายามในการทำให้ชีวิตสะดวกสบาย และปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ใน นอกเหนือจากห้องสวดมนต์บูชาแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับปศุสัตว์ และบ่อมากมายสำหรับน้ำดื่ม ห้องชุมนุม คอกสัตว์ ห้องเก็บไวน์ ส่วนเรื่องการกำจัดของเสีย พวกเขาจะรวบรวมไว้ในกระถางแล้วขนขึ้นไปทิ้งข้างบนเมื่อมีโอกาส
.
เมืองใต้ดิน Derinkuyu ในปัจจุบัน
เมืองใต้ดิน Derinkuyu เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่ปี 1965 พร้อมกับเมืองใต้ดิน Kaymakli ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคนี้ ขณะที่สามารถมองเห็นวิวได้เพียง 8 ชั้นเท่านั้นจากทั้งหมด 18 ชั้น
.
.
ปิดท้ายด้วยภาพจำลองของเมืองใต้ดินดังกล่าว ซึ่งถืิอเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ เมื่อเทียบกับการก่อสร้างในยุคนั้น
ที่มา mymodernmet.com