Chevening Scholarship นับเป็นทุนใหญ่แห่งปีจากรัฐบาลอังกฤษที่มีผู้ให้ความสนใจสมัครเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ทุนนี้ดีอย่างไร? ทำไมนักล่าฝันจึงไม่ควรพลาด? แล้วให้การสนับสนุนแบบจัดเต็มจริงไหม? เรามีคำตอบในบทความนี้ค่ะ :)
ข้อแรก ทุนนี้เป็นทุนที่มีข้อจำกัดน้อยมาก
เพียงสามารถแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการและสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมได้ ก็สามารถรับการสนับสนุนได้ทุกคน ไม่มีการกำหนดเกรด เกียรตินิยม คะแนนภาษาอังกฤษ หรือข้อจำกัดเรื่องการเรียนปริญญามาแล้วกี่ครั้ง
ส่วนมากข้อกำหนดเรื่องคะแนนภาษาจะอยู่ที่การสมัครเรียนกับทางมหาวิทยาลัยที่เลือกมากกว่า ดังนั้นแม้ว่า Chevening จะไม่มีข้อกำหนดในส่วนนี้ แต่ก็ควรมีคะแนนที่ดีเพื่อใช้ในการยื่นสมัครเรียนในมหาวิทยาลัย
อย่างที่สอง Chevening เป็นทุนที่ไม่จำกัดอายุผู้สมัคร หรือแม้แต่สาขาที่เราอยากเรียน
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับคนที่อาจจะรู้ตัวช้าว่าอยากเรียนอะไร หรือมีเป้าหมายใหม่ในชีวิตหลังจากที่ได้ลองทำอย่างอื่นๆ มาแล้ว
สาม ทุนนี้เป็นทุนให้เปล่าที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษ
มีข้อดีคือการไม่ต้องใช้คืนและให้การสนับสนุนแบบเต็มจำนวน ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่อไปนี้
• ค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยที่เลือกสมัคร
• ค่าครองชีพรายเดือน
• ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับจากประเทศบ้านเกิดถึงสหราชอาณาจักร
• เงินช่วยเหลืออื่นๆ สำหรับค่าวีซ่าและค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
• ทุนเดินทางไปร่วมงาน Chevening ในสหราชอาณาจักร
โดยคุณสมบัติที่กำหนดคร่าวๆ ของผู้สมัคร คือต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์การทำงาน 2 ปีขึ้นไป (คิดเป็น 2,800 ชั่วโมง) ไม่เคยได้ทุนจากรัฐบาลอังกฤษมาก่อน และ หลังสำเร็จการศึกษาแล้วต้องกลับไปยังประเทศบ้านเกิด และทำงานอย่างน้อย 2 ปี (ไม่ใช่การใช้ทุน)
สำหรับเรื่องคะแนน IELTS ทางทุนไม่ได้กำหนด แต่โดยมากจะใช้ในการยื่นสมัครของมหาวิทยาลัยต่างๆ จึงแนะนำว่าควรมีคะแนน 6.5 ขึ้นไป (ทุกทักษะต้องได้ไม่น้อยกว่า 5.5) เพื่อให้เพียงพอกับค่าเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรค่ะ
ถือเป็นอีกหนึ่งทุนที่บอกเลยว่าเป็นโอกาสดีมากๆ ใครกำลังรอรับสมัครในปีนี้ อย่าลืมเตรียมความพร้อมกันนะคะ :>